Last updated: 28 ต.ค. 2560 | 1653 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาพศิลปินพิการ นักสร้างแรงบันดาลใจ เอกชัย วรรณแก้ว กับภาพวาดในหลวงรัชกาบที่ ๙ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว และพร้อมนำเรื่องราวความประทับใจของพระองค์ ไปแบ่งปันยังเวทีต่างๆอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้คนได้รับแรงบันดาลใจดีๆ เพื่อจะลุกขึ้นมาให้โอกาสตนเองได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
จุดกำเนิดแห่งแรงบันดาลใจที่เจ้าตัวเล่าว่า เมื่อตอนเด็ก ระหว่างที่พ่อแม่ออกไปทำนา ก็มักทิ้งให้ตนได้ดูทีวีอยู่บ้าน ซึ่งสมัยนั้นก็จะมีข่าวพระราชกรณียะกิจ ที่พระองค์ทรงทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภายในบ้านก็จะติดรูปในหลวงไว้หลายภาพจนตนเองคิดมาเสมอว่า พระองค์ท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของครอบครัว ซึ่งมารู้ความทีหลังว่าท่านคือ ในหลวง คือพ่อของแผ่นดิน ที่ทำหน้าที่ดูแลสุขทุกข์ของประชาชน
จุดกำเนิดความคิดฝังใจ ที่มีในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นต้นแบบในการทำงาน ความเพียรที่ไม่ย่อท้อ อันเป็นจุดเริ่มที่พร้อมจะลุกขึ้นเดินด้วยขาพิการเล็กๆของตนเอง แม้นจะต้องล้มลุก เจ็บกายสักเพียงใด แต่เพื่อให้ได้มีโอกาสได้ก้าวเดินออกไปทำประโยชน์ สร้างโอกาสที่ดีให้ชีวิต
ความยากลำบากและความอุตสาหะ สามารถฝ่าฟันให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายได้จริง ตามที่พระองค์ท่านได้ตรัสสอนปวงประชาอยู่เนืองๆ และจากผลความสำเร็จนั้นได้สร้างความนับถือตนเอง นำความภาคภูมิใจมาสู่พ่อแม่ ญาติพี่น้องและยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้พบเห็นและผู้รับรู้เรื่องราว อันนำมาซึ่งการขยายโอกาสให้เปิดกว้าง ทำให้ได้มีโอกาสเรียนหนังสือต่อ ได้รับโอกาสในการประกอบอาชีพ ได้รับโอกาสในการส่งต่อเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจให้ผู้คน
“หลายครั้งที่ผมอยากล้มเลิกความพยายามลงกลางคัน เพราะความรู้สึกว่าหนทางที่เดินไปสู่เป้าหมายนั้น ช่างยากเย็น มันเป็นความรู้สึกที่ลำบาก เหนื่อยล้า แสนสาหัส เพราะความขาดแคลน และความพิการมีไม่สมบูรณ์เหมือนคนปกติทั่วไป ผมมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง และไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า เมื่อถึงที่สุดแล้วมันจะดีหรือไม่อย่างไร แต่เมื่อผมได้เห็นพระองค์ท่านทรงงานอย่างไม่มีวันเหน็ดเหนื่อยและไม่มีข้อแม้ และได้ฟังคำสอนของพระองค์ ผมก็จะมีแรงฮึดที่จะลุกขึ้นทำต่อ พร้อมสร้างความเพียรพยายามให้สำเร็จลุล่วงทันที”
เมื่อมาถึงวันนี้ ผมว่าผมได้เห็นผลของความเพียรพยายาม ที่ได้ฝ่าฟันมา เมื่อมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น ผมว่าผมก้าวมาไกลมากแล้ว หากในวันนั้นผมไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างแล้วเลือกที่จะยอมรับชะตาชีวิต ผมคงไม่มีวันนี้
การได้เกิดมาภายใต้พระบรมโพธิ์สมภาร ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างที่สุดแล้ว ในชีวิตผม
เมื่อปี ๒๕๕๘ ผมได้ตั้งใจทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบแทนพระองค์ จึงได้เดินทางปีนเขา คิริมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย แอฟริกาใต้ พร้อมพี่ๆกลุ่คนไทยที่รักและเทิดทูนพระองค์ ภารกิจในครั้งนั้นเพื่อขึ้นไปวาดภาพถวายพระองค์เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ๕ ธนวาคม ๒๕๕๘ และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกเห็นว่าคนพิการอย่างผมก็สามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่หลายๆคนไม่คิดว่าตนเองจะทำได้ วาดภาพเพื่อถวายพระองค์
ในปี ๒๕๕๙ ผมตั้งใจจะจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติถวายแด่พระองค์ท่านเนื่องในเฉลิมพระชนม์มายุครบ ๙๐ พรรษา หากแต่พระองค์ท่านได้สวรรคตในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ผมจึงตั้งใจวาดภาพพระองค์และรวบรวมเพื่อจัดแสดงภาพเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ จึงได้เกิดนิทรรศการแรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน เทิดไท้องค์ราชัน ในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา
ในความคิดของผมนะ พระองค์ท่านไม่ได้จากพวกเราไปไหน คำสอนท่าน ความดีงาม ฝังอยู่ในใจของเราไม่เสื่อมคลาย ผมกลับมีกำลังใจมากขึ้นกว่าเดิม และมีความตั้งใจว่าจะทำสิ่งดีงามเพื่อน้อมถวายพระองค์ และดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทำงานสืบสานพระราชปณิธาน ให้สมกับที่พระองค์ได้เป็นแบบอย่างและทรงพระราชกรณียะกิจมาตลอดพระชนม์ชีพ
โครงการอาสาศิลป์ ภายใต้แนวคิด ศิลปะเพื่อสืบสานพระราชปณิธาน เพื่อเปิดพื้นที่ให้ศิลปินที่มีจิตอาสา ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคมเพื่อให้สังคมได้ประโยชน์จากวิชาชีพศิลปะ ภายใต้แนวคิดศิลปะเปลี่ยนประเทศได้มากกว่าที่คิด
“ผมว่าทุกอาชีพ สามารถที่จะลุกขึ้นมาร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สังคม สร้างสิ่งดีๆ สร้างเครือข่ายจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือผู้คน เพื่อสร้างกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์ อย่างน้อยก็เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ และสามารถขยายออกไปยังวงกว้างได้ ผมเป็นนักวาดรูป อยู่ในวิชาชีพศิลปะ ผมกับพี่ๆน้องศิลปินจึงร่วมกันสร้างโครงการอาสาศิลป์ ขึ้น เพื่อรวมรวบคนที่อยากแบ่งปันและร่วมขับเคลื่อนสร้างประโยชน์ และพัฒนาวงการวิชาชีพศิลปะได้ด้วยกัน และผมก็อยากจะเปิดพื้นที่ให้กับศิลปินที่มีขาดโอกาสในการแสดงผลงานให้เค้าได้มีโอกาสนั้น เหมือนกับที่ผมได้รับโอกาสจากสังคมเช่นเดียวกันครับ”
โครงการอาสาศิลป์ จัดตั้งขั้นในปี ๒๕๕๙ โดยเริ่มจากการคัดสรรศิลปินที่มีความคิดในการเป็นจิตอาสาเพื่อเกื้อกูลสังคม ร่วมเข้า Workshop ร่วมกับครูบาอาจารย์ ศิลปินระดับชาติ เพื่อหล่อหลอมความคิด ร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อสานต่อกิจกรรมดีๆในและนอกประเทศสืบไป “สำหรับปีนี้ ๒๕๖๐ เป็นปีที่ ๒ ที่จะเปิดรับเพื่อสานต่องานที่พ่อทำและขยายโอกาสและเครือข่ายไปสู่การสานสัมพันธ์และความร่วมมือต่างๆ เพื่อให้วิชาชีพศิลปินได้เป็นมากกว่าการหาเลี้ยงชีพ แต่จะสามารถเป็นกลุ่มสังคมที่ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คนได้อีกมากครับ”
โครงการอาสาศิลป์ เปิดรับสมัครศิลปินจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม “พุทธอาสาศิลป์ รุ่นที่ ๒” โดยเปิดรับสมัครวันนี้ ถึง ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๐ รายละเอียดwww.rsasilp.com หรือเพจ: พุทธอาสาศิลป์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร ๐๖๓ ๓๖๒ ๘๙๕๕
10 มี.ค. 2560
10 มี.ค. 2560